มีสองทีมในยุโรปในฟุตบอลโลกครั้งนี้
1 min read
กลุ่ม | ชุดของราคาต่อรองที่ผู้ชนะมาจาก | ประเทศในยุโรป 1 | อัตราต่อรองที่ชนะ | ประเทศในยุโรป 2 | อัตราต่อรองที่ชนะ |
กลุ่ม B | 5.5 เท่า | โปรตุเกส | 22 เท่า | สเปน | 7.5 เท่า |
กลุ่ม C | 5.5 เท่า | ฝรั่งเศส | 6เท่า | เดนมาร์ก | 90 เท่า |
กลุ่ม D | 6.75 เท่า | ไอซ์แลนด์ | 150 เท่า | โครเอเชีย | 28 เท่า |
กลุ่ม E | 5 เท่า | สวิตเซอร์แลนด์ | 15 เท่า | เซอร์เบีย | 120 เท่า |
กลุ่ม F | 4.25 เท่า | เยอรมนี | 5.75 เท่า | สวีเดน | 80 เท่า |
กลุ่ม G | 7.25 เท่า | เบลเยี่ยม | 11 เท่า | , อังกฤษ | 16 เท่า |
กลุ่ม A และ H 100% ไม่เลือก
แชมป์มาจากกลุ่มไหน “
ตัวเลือกแรกคือกลุ่มที่มี 2 ทีมในยุโรป
ในรูปแบบการเล่นของกิจกรรมพิเศษที่ เปิดตัวฟุตบอลโลกครั้งนี้
“แชมป์จะมาจากกลุ่มไหน” ดูเหมือนจะไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ด้วยความคิดเล็กน้อยก็ยังสามารถเลือกได้ว่า
“แชมป์จะมาจากกลุ่มใด”
ยกตัวอย่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 8 ครั้งล่าสุดเฉพาะปี 1998 และ 2002
แชมป์เปี้ยนทั้งหมดมาจากกลุ่ม C และที่เหลืออยู่คนละกลุ่ม (โปรดดูรายละเอียดจากตารางที่แนบ) อย่างไรก็ตามมันก็มีจุดร่วมเช่นกันในรอบ 8 ทีมแชมป์ที่ผ่านมา 7 ทีมมาจากสองทีมในยุโรป ข้อยกเว้นคือบราซิลแชมป์ปี 2002 ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับตุรกีเท่านั้น ตามวิธีนี้มีทีมยุโรป 2 ทีมในปีนี้ 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม B กลุ่ม C กลุ่ม D กลุ่ม E กลุ่ม F และกลุ่ม G หากคุณคิดว่าวิธีนี้มีพื้นฐานคุณอาจให้ความสำคัญกับห้ากลุ่มนี้ด้วยเช่นกันเมื่อเลือก “แชมป์มาจากกลุ่มใด”
นอกจากนี้ “แชมป์กลุ่มไหนมาจากไหน”อัตราต่อรองของกลุ่ม B และกลุ่ม G ค่อนข้างสมเหตุสมผล เนื่องจากอัตราต่อรองของ “ แชมป์มาจากกลุ่มไหน ” ต่ำสุด 4.25 เท่าในกลุ่ม F และสิ่งนี้ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดจากการที่เยอรมนี (4.75 เท่าของอัตราต่อรองที่ชนะ) อยู่ในกลุ่ม F และสถานการณ์ในกลุ่ม C ก็คล้ายกันเนื่องจากฝรั่งเศสอยู่ในกลุ่ม กลุ่ม B มีสเปน (แชมป์ฟุตบอลโลก 2010) และโปรตุเกส (แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพออฟเนชั่นส์ปี 2016) อยู่ในกลุ่ม•อัตราต่อรอง 5.5 เท่าซึ่งสมเหตุสมผล กลุ่ม G มีเบลเยียม “โกลเด้นเจเนอเรชั่น” และ “ม้ามืดทุกคน” อังกฤษอยู่ในกลุ่มอัตราต่อรองคือ 7.25 เท่าซึ่งก็น่าพิจารณาเช่นกัน